กตายาย

        จ.ศรีสะเกษ...!!@  คืบหน้า 2 ตายายโดนน้ำพัดจมน้ำพบทั้ง 2 ศพแล้ว ลูกชายเศร้าเสียใจมากเผย 2 ตายายตักบาตรพระทุกเช้าแล้วจะไปเลี้ยงหลานให้เพราะว่าตนและภรรยาเป็นครูต้องไปสอนเด็ก น.ร. ...!!  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายสุวรรณ ยาศรี อายุ 80 ปี และ นางข่อง ยาศรี อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 10  บ้านหนองแวงใต้ ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ 2 ตายายเป็นสามีภรรยากัน ได้ขับขี่รถ จยย.ลุยลงไปในบริเวณฝายน้ำล้นบ้านหนองแวง ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ  และได้ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากพัดจมน้ำหายไปพร้อมด้วยรถ จยย. ต่อมาเช้าวันนี้ (30 ก.ย.65) นายภัทรพล  สารการ  นายอำเภอโนนคูณ พร้อมด้วย นายไพฑูรย์  อักโข นายก อบต.หนองกุง กำนัน ต.หนองกุง ได้นำผู้นำชุมชน ชาวบ้านและญาติพี่น้องของ  2 ตายาย ที่จมน้ำหายไปตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 29 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา โดยได้มีการระดมชาวบ้านมาช่วยกันตามหาบริเวณฝายน้ำล้นและเดินค้นหาไปตาม 2 ข้างฝายน้ำล้น

ตามเส้นทางที่น้ำไหลไป  พร้อมทั้งมีการลุยค้นหาในฝายน้ำล้น ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อเวลา  12.00 น. วันที่ 30 ก.ย. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ฝายน้ำล้นบ้านหนองแวง ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ  นายไพฑูรย์  อักโข นายก อบต.หนองกุง พร้อมด้วย กำนัน ต.หนองกุง ได้นำผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสารณภัย อบต.หนองกุง เจ้าหน้าที่ อปพร. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยศรีสะเกษร่วมใจ อ.โนนคูณ ชาวบ้านและญาติพี่น้องของ  นายสุวรรณ ยาศรี อายุ 80 ปี และ นางข่อง ยาศรี อายุ 71 ปี 2 ตายายที่โดนกระแสน้ำที่ฝายน้ำล้นพัดหายไป โดยมีการระดมค้นหาตาม 2 ข้างลำห้วย และระดมค้นหาในน้ำใกล้กับฝายน้ำล้น  จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.30  น.วันเดียวกันนี้  ได้พบศพของ                       นางข่อง ยาศรี ที่จมน้ำหายไป  โดยพบศพอยู่ในน้ำห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม.  ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำศพขึ้นมาบนฝั่งและใช้ผ้ามาห่อร่างของนางข่อง เอาไว้  ซึ่งเมื่อลูกหลานเห็นนางข่องเสียชีวิตแล้ว

ได้พากันร้องไห้เข้าไปกอดศพคร่ำครวญอย่างน่าเวทนา จากนั้น ได้แจ้งให้ ร.ต.อ.วิษณุ   วงษ์ณรงค์ ร้อยเวร สภ.โนนคูณ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.โนนคูณ มาทำการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้มอบศพให้ญาตินำเอาไปตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านหนองแวง ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า การค้นหายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. จึงพบร่างของนายนายสุวรรณ ยาศรี ลอยอยู่ในน้ำติดกับกอไผ่ ห่างจากฝายน้ำล้นที่เกิดเหตุประมาณ 1.5 กม. เจ้าหน้าที่และชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำร่างของนายสุวรรณขึ้นมาจากน้ำ จากนั้น  ร.ต.อ.วิษณุ   วงษ์ณรงค์ ร้อยเวร สภ.โนนคูณ ได้มาทำการตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายทำให้เสียชีวิตแต่อย่างใด จึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยศรีสะเกษร่วมใจ นำศพของนายสุวรรณ ส่งไปที่ รพ.โนนคูณ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรศพหาสาเหตุการเสียชีวิต  ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้มอบศพนายสุวรรณ ให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านหนองแวง ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ ต่อไป นายกิตติชัย  ยาศรี  อายุ 38 ปี ข้าราชการครู ร.ร.มัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกชายของ 2 ตายาย กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าโศกเสียใจอย่างหนักว่า ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์หลังจากที่พ่อกับแม่ตักบาตรตอนเช้าเสร็จแล้ว          ก็จะไปช่วยเลี้ยงหลานซึ่งเป็นลูกของตน เพราะว่าตนกับภรรยาต้องแยกย้ายกันไปทำการสอนไปทำงานที่โรงเรียน ก็จะได้พ่อกับแม่เป็นคนช่วยดูแลลูก เพราะช่วงเย็นพอภรรยากลับมาพ่อกับแม่ของตนถึงจะได้พากันกลับมาบ้าน ประมาณ 4 โมงเย็นทุกวัน ในวันเกิดเหตุวันนั้นภรรยาของตนน่าจะสอบเด็กนักเรียนเสร็จเร็ว จึงได้กลับบ้านมาก่อนช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 โมงเศษ จึงได้ให้ปู่กับย่ากลับซึ่งภรรยาของตนได้บอกปู่และย่าว่า ฝายน้ำล้นหนองแวงน้ำไหลแรงให้กลับอีกทางหนึ่งก็คือกลับทางบ้านโนนรัง  ซึ่งตอนจะออกจากบ้านของตนปู่กับย่า บอกว่าไม่ต้องบอกเพราะว่า ปู่กับย่าจะกลับทางบ้านโนนรัง แต่ไม่รู้ว่าอะไรดลใจถึงทำให้ปู่กับย่าขับรถ จยย.ไปทางฝายน้ำล้นแห่งนี้ ตำรวจบอกว่าพบศพคุณพ่อเวลาประมาณ 16.30 น. ส่วนคุณแม่ช่วงเวลาที่พบศพประมาณเที่ยงเศษ เพราะว่าเป็นช่วงที่ใกล้จะพักกินข้าวกันแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนไม่รู้ว่าจะพูดยังไงแล้ว เพราะว่าต้องสูญเสียพ่อแม่ไปพร้อมกันทั้ง 2 คนโดยที่ไม่ได้สั่งเสียอะไรเลย ส่วนการกำหนดวันประกอบพิธีทางศาสนานั้นยังไม่ได้หารือกันกับญาติพี่น้อง อาจจะตั้งศพ 3 วัน 5 วันหรือ7 วันก็ได้ เพราะว่า พ่อของตนเป็นรองมัคทายกอยู่ที่วัดบ้านหนองแวง หลังจากแพทย์ชันสูตรศพเสร็จแล้วก็จะนำศพของพ่อไปตั้งศพคู่กันกับศพแม่ สวดพระอภิธรรมศพวันแรกที่วัดบ้านหนองแวงต่อไป//

...ศิริเกษ  หมายสุข/ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสด+ะเกษ/ภาพ/ข่าว/รายงาน ( สมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สื่อข่าวฯ/SIANGPRABANG NEWS ONLINE T.099-4920749) 

เปิดแถลงข่าวการจัดงานตักบาตรเทโว...!!ดูเพิ่ม

        จ.อุทัยธานี...!!@  พิธีแถลงข่าวการจัดงาน "ตักบาตรเทโว" ปี 2565...!!

 จากการรายงานของผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 เวลา 16.30 น. นายขจรเกียุติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานในพิธี แถลงข่าวการจัดงานประเพณีตักบาตรเทโวประจำปี 2565 ณ โรงแรมอุทัย เฮอริเทจ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี   โดยมี น.ส.ปานัดฌา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี นายณัฐปคัลภ์ อัครวิทย์ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสาขาจังหวัดอุทัยธานี นายประวุฒิ ปุริสพันธ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี และหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี ร่วมเป็นเกียรติในงานแถลงข่าวการจัดงานประเพณีตักบาตรเทโวประจำปี 2565 เพื่อส่งเสริมประเพณีสำคัญทางพระพุทธศาสนา และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอุทัยธานี //

... สมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สื่อข่าวฯ/SIANGPRABANG NEWS ONLINE/ ภาพ/ข่าว/

 T.099-4920749

นายอำเภอลงพื้นที่ติดตามการเพาะเลี้ยงปลาในกระชัง...!! ดูเพิ่ม

        จ.ปราจีนบุรี...นายอำเภอบ้านสร้าง #เร่งลงพื้นที่ตำบลบางพลวง สำรวจ และติดตามสถานการณ์การเพาะเลี้ยงปลาในกระชัง เพื่อหาแนวทางป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้จากภัยน้ำท่วม พร้อมแนะแนวทางให้แก่ประชาชนในการเตรียมความพร้อมรับมือ เพื่อลดความเสียหาย...!!  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 14.00 น.

อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี โดยเวลา 14.00 น. นายเสฏฐวุฒิ วงศ์เลอวุฒิ นายอำเภอบ้านสร้าง พร้อมด้วย นายก อบต.บางพลวง, ประธานสภา อบต.บางพลวง และฝ่ายปกครองท้องที่ เร่งลงพื้นที่ตำบลบางพลวง เพื่อสำรวจ และรับฟังความต้องการของพี่น้องชาวประมงผู้เพาะเลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำ เพื่อร่วมกันหาแนวทางป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้จากภัยน้ำท่วมในอนาคต พร้อมกันนี้ นายอำเภอบ้านสร้างยังได้แนะแนวทางในการเตรียมความพร้อม และซักซ้อมการรับมือกับสถานการณ์น้ำให้กับพี่น้องประชาชนด้วย

สืบเนื่องจากในช่วงนี้ที่อำเภอบ้านสร้าง มีฝนตกชุก ซึ่งทำให้พื้นที่ที่เป็นบ้านเรือน และที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาในกระชัง ซึ่งอยู่บริเวณริมแม่น้ำ อาจได้รับความเสียหายจากอุทกภัยได้ นอกจากนี้ จังหวัดปราจีนบุรี ยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชั่นโนรู อีกทั้งในห้วงนี้ได้มีการเตรียมการในการเปิดประตูน้ำหาดยาง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่อาจทำให้ระดับน้ำในพื้นที่อำเภอบ้านสร้างเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต นายอำเภอบ้านสร้าง จึงเร่งลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ และสำรวจพื้นที่เพาะเลี้ยงปลาในกระชัง เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกัน และรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจเพิ่มระดับได้

นอกจากนี้ นายอำเภอบ้านสร้างยังได้ให้คำแนะนำกับพี่น้องประชาชนที่ทำอาชีพประมงในการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยน้ำท่วมในอนาคต อาทิ การวางแผนในการเลี้ยงสัตว์น้ำให้มีความสอดคล้องกับบริบทเชิงพื้นที่, การเร่งจับสัตว์น้ำที่ได้ขนาดมาจำหน่าย เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ เป็นต้น พร้อมเน้นย้ำให้ อปท.ในพื้นที่ และฝ่ายปกครองท้องที่ หมั่นให้ความสำคัญในการลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ และรับฟังปัญหาความต้องการของพี่น้อง ประชาชน เพื่อป้องกันความเสียหาย และบรรเทาทุกข์ได้ทันท่วงที//

... อลงกรณ์ คุณกิตติมานนท์/ จ.ปราจีนบุรี/ภาพ/ข่าว/รายงาน 087-8789225 ( สมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สื่อข่าวฯ/SIANGPRABANG NEWS ONLINE T.099-4920749)

โค้งสุดท้าย รพ.สต. ...!! ดูเพิ่ม

        จ.นครสวรรค์...!!@  นายก อบจ.นครสวรรค์ ร่วมเป็นวิทยากรบรรยาย “โค้งสุดท้ายการเตรียมพร้อม รพ.สต.โอนไปอยู่ อบจ.นครสวรรค์”...!!

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 กันยายน 2565 ณ โรงแรมแกรนด์ฮิลล์ รีสอร์ทแอนด์สปา อ.เมืองนครสวรรค์ พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.นครสวรรค์ ได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยาย เรื่อง “โค้งสุดท้ายการเตรียมพร้อม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโอนไปอยู่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์” พร้อมด้วยนายสันติ จันทร์เผิบ สิบเอกพิทยา นาคกุญชร รองปลัด อบจ.นคสรวรรค์ โดยมีนายณรงค์ ตั้งศิริชัย ผอ.รพ.สต.เนินศาลา ในฐานะนายกสมาคมหมออนามัย และบุคลากรที่ปฏิบัติงานในรพ.สต. กว่า 200 คน เข้าร่วมรับฟังการบรรยาย โดยสมาคมหมออนามัยนครสวรรค์ ได้จัดทำโครงการประชุมวิชาการหมออนามัยจังหวัดนครสวรรค์ ปี 2565 การปฏิรูปเพื่อการเปลี่ยนแปลง :

การพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ ขึ้นเพื่อให้บุคลากรสาธารณสุขหรือหมออนามัยในยุคใหม่มีศักยภาพ ในการสานพลังเครือข่ายทางปัญญา พลังทางสังคมที่มีอยู่ และเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ นายก อบจ.นครสวรรค์ กล่าวว่า “อบจ.นครสวรรค์ เราทำงานเน้นคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญ และพร้อมพัฒนาเศรษฐกิจครัวเรือนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของชุมชน ลดช่องว่างให้ชนบทเข้าถึงในตัวเมืองได้ง่ายขึ้น การบรรยายในวันนี้โค้งสุดท้ายนั้นหมายถึง เพื่อถึงจุดสตาร์ทใหม่หรือเริ่มเข้าสู่จุดเริ่มต้นใหม่ ซึ่งทุกคนที่โอนย้ายเข้ามาย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งชีวิตและการทำงาน หรือวิธีคิดที่เปลี่ยนไป แต่ด้านสุขภาวะจะกว้างขึ้น อุปกรณ์เครื่องมือ และความก้าวหน้าจะเปลี่ยนแปลงไป" " อบจ.นครสวรรค์นั้น มาจากท้องถิ่นเพราะชาวบ้านเป็นผู้เลือกสรร เราจึงยึดเป้าหมายเพื่อประชาชนเป็นที่ตั้ง และจะทำอะไรต้องรอบคอบรัดกุม ถูกต้องตามระเบียบเท่านั้น ซึ่งการเบิกจ่ายงบประมาณจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือโดยศึกษาจากระบบเก่าเพื่อให้ครอบคลุมทุกฝ่าย และเราจะช่วยสร้างระบบร่วมกัน ในอนาคตจะมีการทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน เป้าหมายของอบจ. นครสวรรค์ จะทำงานด้วยความเข้าใจ รพ.สต. โดยแต่ละพื้นที่มีลักษณะที่ไม่เหมือนกัน อบจ.พร้อมจะขับเคลื่อนช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และขอให้ทุกท่านอย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง” นายก อบจ.นครสวรรค์ กล่าวในที่สุด//

...ชาติชาย/นครสวรรค์/ภาพ/ข่าว/รายงาน 0897039442 (สมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สื่อข่าวฯ/SIANGPRABANG NEWS ONLINE T.099-4920849)

ผู้อพยบหนี "โนรู "เดือดร้อนไม่มีไฟฟ้าใช้...!! ดูเพิ่ม

        จ.ศรีสะเกษ...!!@ ผู้อพยพหนีน้ำท่วมคุ้มหนองหมูเดือดร้อนหนักไม่มีไฟฟ้าฝนตกหนักต้องนั่งตากยุงรอรับโนรูทั้งคืน   ขณะที่ฝนตกหนักตลอดเวลาน้ำท่วมบ้านถึงหลังคาแล้ว ข้าวของลอยตามน้ำหายไปจำนวนมาก...!!  เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 28 ก.ย. 65  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมถนนเฉลิมราชย์ ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านคุ้มหนองหมู ได้พากันมาอพยพหนีน้ำท่วมบ้านเรือนมาพักอาศัย ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 65 เป็นต้นมา  ปรากฏว่า ขณะนี้อิทธิพลของพายุโนรูได้ทำให้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา  โดยฝนได้ตกหนักตั้งแต่เวลา 02.00 น.ของคืนวันที่ 27 ก.ย.เป็นต้นมาจนถึงขณะนี้ฝนก็ยังไม่หยุดตก ส่งผลให้ระดับน้ำในลำห้วยสำราญสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคุ้มหนองหมูอยู่ติดกับลำห้วยสำราญทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านโดนน้ำท่วมจำนวนมาก นายฉัฐมงคล  อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ

ได้ให้การช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่ทั้งการจัดเต็นท์ให้ชาวบ้านได้พักอาศัยและจัดหาอาหารน้ำดื่มถุงยังชีพมาให้การช่วยเหลือชาวบ้าน  ซึ่งนางพะเยาว์  โสดาลี  ประธานคุ้มหนองหมู ได้เดินตรวจดูความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักและอากาศหนาวเย็น พบว่า ชาวบ้านบางส่วนยังไม่ได้นอนพักผ่อน เนื่องจากว่า เพิ่งย้ายขึ้นมาจากบ้านที่โดนน้ำท่วม และข้าวของเครื่องใช้ยังไม่มี โดยมีแคร่ 1 อัน นั่งเบียดกันอยู่ 4 คน มีชายผู้สูงอายุพิการ 1 คนเป็นโรคสมองตีบ เด็กหญิง 1 คน ท่ามกลางความมืด เนื่องจากว่า ไฟฟ้าดับมาตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น.จนถึงขณะนี้ และอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก นางหรำ   หงส์ชะนี อายุ  65 ปี  ชาวบ้านหนองหมู กล่าวว่า บ้านของตนโดนน้ำท่วมถึงหลังคาแล้ว ตนกับครอบครัวจึงได้พากันหนีน้ำท่วมขึ้นมาอยู่ที่เต็นท์ข้างถนน ส่วนข้าวของเครื่องใช้โดนน้ำพัดลอยหายไปหมด ขณะนี้มีปัญหาคือยุงเยอะมาก ที่นอนไม่เพียงพอมีเพียงแคร่อันเดียวเท่านั้น ตนจึงได้ให้ นายอวย  แสนภักดี อายุ 70 ปี ได้นอนพัก ส่วนตน หลานสาววัย 3 ขวบ 1 คน และหลานชายอีก 1 คน คงจะต้องนั่งตากยุงทั้งคืนจนถึงสว่าง รอรับพายุโนรูที่จะเข้ามาถึง จ.ศรีสะเกษในเช้าวันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.65) นายวิเชียร   แสงทอง อายุ  56 ปี ชาวบ้านคุ้มหนองหมู กล่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยวของวันนี้ ตนได้ลงไปดูบ้านของตนที่โดนน้ำท่วม ปรากฏว่าน้ำได้ท่วมบ้านถึงหลังคาแล้ว ข้าวของเครื่องใช้จำนวนหนึ่งถูกน้ำท่วมเสียหาย ตนมาพักอยู่ริมถนนเพราะว่า จะได้สะดวกในการลงไปดูแลบ้าน แต่ว่า ขณะนี้ยุงเยอะมาก และไฟฟ้าดับมาตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว ทำให้พวกตนได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะว่าไม่มีไฟฟ้าใช้ และสภาพอากาศหนาวเย็นมาก ปกติแล้วจะมีไฟฟ้าใช้ตั้งแต่เวลา 18.00 – 06.00 น.ทุกวัน แต่วันนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้แต่อย่างใด ทางด้าน นางพะเยาว์  โสดาลี  ประธานคุ้มหนองหมู กล่าวว่า  ชาวบ้านคุ้มหนองหมูมีจำนวนทั้งสิ้น 170 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วมบ้าน จำนวน 70  ครัวเรือน  ตนต้องคอยดูแลความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่อพยพหนีน้ำท่วมว่ามีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง และต้องเฝ้าดูระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะได้สามารถเตือนประชาชนได้ทันที  ซึ่งจะต้องประสานงานกับส่วนราชการต่าง ๆ เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยขณะนี้มีปัญหาเรื่องเต็นท์ที่พักมีไม่เพียงพอ ซึ่งตนได้แจ้งให้ทางเทศบาลเมืองศรีสะเกษและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้รับทราบเพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือแล้ว//

...ศิริเกษ  หมายสุข/ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ/ภาพ/ข่าว/รายงาน ( สมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สื่อข่าวฯ/SIANGPRABANG NEWS ONLINE T.099-4920749)

"โนรู" ถล่มคร่าชีวิตดับ 1 บาดเจ็บ 2...!! ดูเพิ่ม

        จ.ศรีสะเกษ...!!@  พิษพายุโนรูฝนถล่มหนักทำให้ต้นไม้โค่นล้มทับรถยนต์ดับ 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย...!!  เมื่อเวลา 18.55 น. วันที่  28 ก.ย. 65 ร.ต.อ.ชนกรานต์   สัมฤทธิ์  ร้อยเวรสอบสวน สภ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุรถยนต์ชนต้นไม้ที่ถนนสาย ศก 3013  ห้วยทับทัน - ปรางค์กู่  บริเวณใกล้ห้วยยาง จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ทินกร  เดชาเลิศ ผกก.สภ.ห้วยทับทันทราบ และรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ   เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ  รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุรุ่นดีแมคแบบแค็บสีขาว หมายเลขทะเบียน บม 9971 สุรินทร์ จอดอยู่ฝั่งขาเข้า อ.ห้วยทับทัน  สภาพรถมีต้นไม้ขนาดล้มทับอยู่  โดยสภาพของต้นไม้ล้มขวางถนนทำให้รถคันอื่น ๆ ไม่สามารถสวนทางไปมาได้  จากการตรวจสอบภายในรถยนต์พบร่างของชายคนหนึ่งทราบชื่อภายหลังว่า ชื่อ  นายบัวสอน  พิมดา  อายุ 51 ปี  อยู่บ้านเลขที่  28 ม.6 ต.กล้วยกว้าง อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ  นั่งอยู่เบาะหน้าคู่กับคนขับติดอยู่ภายในรถเสียชีวิต

ในที่เกิดเหตุไม่สามารถนำร่างออกมาได้  และพบ นายลาชันย์  ครุฑแก้ว  อายุ 31 ปี ที่อยู่  64 ม.6 ต.กล้วยกว้าง   แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่รถและไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด   มีคนเจ็บอีก 2 คนที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลห้วยทับทันก่อนหน้านี้แล้วทราบชื่อภายหลังว่า คือ  นายประภาพงษ์  ยอดนุ่น  อายุ  38 ปี  และ  นายสมหมาย  โพงพิมาย  อายุ  58 ปี  ที่นั่งอยู่ในแค็บของรถ โดยทั้ง 2 คน ได้รับบาดเจ็บมีพลเมืองดีนำส่งตัวมาเข้ารับการรักษา    ซึ่งจากการสอบถามผู้ขับขี่รถแจ้งว่า ไม่ทราบว่าต้นไม้ล้มทับรถหรือว่าขับขี่รถชนต้นไม้ที่ล้มอยู่   เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ห้วยทับทัน จึงได้อำนวยความสะดวกด้านการจราจร พร้อมทั้งนำเครื่องตัดถ่างมานำร่างนายบัวสอน ที่เสียชีวิตแล้ว เพื่อทำการชันสูตรพลิกศพ  และได้นำรถยนต์ที่เกิดเหตุมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.ห้วยทับทัน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

//

...ศิริเกษ  หมายสุข/ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ/ภาพๅข่าว/รายงาน ( สมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สื่อข่าวฯ/SIANGPRABANG NEWS ONLINE T.099-4920749)