หนุ่มถือหม้อเลือดตนเองวิ่งขอความช่วยเหลือ...!! ดูเพิ่ม

        จ.อุทัยธานี...!!@  หนุ่มถือหม้อเลือดวิ่งไปหาเพื่อนบ้านก่อนล้มลงดับ ก่อนตายไปหาแม่พูดเป็นปริศนาอยากตายไม่อยากอยู่...!!  เมื่อเวลา 17.30.น.ของวันที่ 29 พ.ย.66 สถานีตำรวจภูธรลานสัก ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้เสียชีวิตนอนหงายท้อง ข้างกันมีหม้อเลือด 1 หม้อ อยู่ที่บ้านเลขที่ 175/2 ม.10 บ้านเขาไม้นวล ต.ป่าอ้อ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังจากที่ได้รับแจ้งจนท.ตำรวจพื้นที่ ต.ป่าอ้อ ประสานไปยังกู้ภัยอุทัยธานี จุดลานสัก รีบรุดมายังที่เกิดเหตุ สถานที่พบผู้ตายเป็นชายนอนเสียชีวิต สภาพศพนอนกลางแขน กลางแขน ข้างกันพบเลือดอยู่ในหม้อทำกับข้าว 1 ใบ ตามร่างกายพบรอยเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ที่ตัวผู้ตาย นอนเสียชีวิตอยู่ที่หน้าบ้านของเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านผู้ตาย ทราบต่อมาว่าผู้ตายชื่อนายพิพัฒน์ กำลังวิก อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 176 ม.10 ต.ป่าอ้อ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี จากการสอบถามเพื่อนบ้านชื่อนายเกรส อายุ 15 ปี ซึ่งเห็นผู้ตายล้มลงต่อหน้าต่อตา ได้เปิดเผยว่า ช่วงเย็นก่อนผู้ตายจะเสียชีวิต ผู้ตายได้วิ่งออกมาจากบ้านแล้ววิ่งมาที่บ้านของตนเองตะโกนเรียกพ่อตนเอง โดยถือหม้อมาด้วย 1 ใบ ตอนแรกตนเองคิดว่าผู้ตายถือหม้อใส่ปลาไหลมาให้พ่อของตนเอง ต่อมาตนเองก็เห็นผู้ตายวิ่งไปล้มลงนอนดิ้นหงายท้องจนเสียชีวิต ภายในหม้อมีเลือดของผู้ตายอยู่ภายในหม้อ พร้อมกับมีเลือดของผู้ตายเปรอะเปื้อนร่างของผู้ตายตามตัว จึงได้โทรแจ้งประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านมายังบ้านของตนเอง ล่าสุดได้สอบถามแม่ของผู้ตายชื่อนางจ้อน อายุ 77 ปี ได้เปิดเผยว่า ก่อนผู้ตายจะเสียชีวิต ผู้ตายได้ไปหาตนเองที่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่คนละบ้านกับผู้ตาย ไปนอนเล่นด้วยพักหนึ่ง พร้อมกับตนเองได้ให้ตังไป 100 บาท กับห่อขนมให้ลูกหรือผู้ตายไป ก่อนกลับบ้านผู้ตายได้พูดกับตนเองว่า อยากจะตายแล้วไม่อยากมีชีวิตอยู่ ตนเองก็ไม่คิดว่าลูกจะเสียชีวิตจริง เนื่องจากผู้ตายพึ่งไปหาตนเองเมื่อสักพัก อีกทั้งนางจ้อน ยังเปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยประสบอุบัติเหตุทางรถมาโดยมีบาดแผลโดนเจาะอยู่ที่หน้าผากจนได้รับความเจ็บปวด ทั้งนี้ทางทางญาติไม่ได้ติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้ สาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากโรคประจำตัวของผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายได้อาเจียนออกมาเป็นเลือดหยดลงตามพื้น ที่บ้านของผู้ตายแล้ว ก่อนที่จะวิ่งถือหม้อใส่เลือดอาเจียนของผู้ตาย วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านจนล้มลงเสียชีวิตดังกล่าว

//...สำเนา ทองศรี/จ.อุทัยธานี/ ภาพ/ข่าว/รายงาน/สมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สื่อข่าวฯ/SIANGPRABANG NEWS ONLINE 082-5899354

 

เทศน์มหาชาติสร้างโบสถ์ไม้ตะเคียน...!! ดูเพิ่ม

        จ.อุทัยธานี...!!@  เทศมหาชาติหารายได้มุ่งหลังคาโบสถ์ไม้ตะเคียน ในวันจันทร์ซ้อนจันทร์ระหว่างประกอบพิธี องค์ท้าวเวสสุวรรณ์ลงกลางงานเทศมหาชาติให้เลข 3 ตัว...!!  วันที่ 27 พ.ย.66 ทีผ่านมาแม่ชีแก้วเพชร  มณีมหาปัญโญ พร้อมคณะกรรมวัดเขาถ้ำประทุน หมู่ 12 วัดเขาถ้ำประทุน ต.ทัพหลวง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ได้จัดให้มีการเทศมหาชาติ พระเวสสันดรชาดก 13 กัณฑ์ พันคาถา ในครั้งนี้ และ สืบเนื่องเป็นวันลอยกระทง พร้อมกับเป็นวันจันทร์ซ้อนจันทร์ จึงอยากให้ประชาชนหันหน้าเข้าวัดฟังธรรรม พร้อมกับหาปัจจัยทุนทรัพย์ในการก่อสร้างพระอุโบสถรากไม้แห่งนี้ ก่อสร้างมา ตั้งแต่ปี 2558 ใช้งบประมาณ 100 กว่าล้าน ท่ามกลางเนื้อที่ของวัดกว่า 200 ไร่  ปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จ โดยยังขาดปัจจัย ทุนทรัพย์อีกจำนวนมาก ในการมุ่งหลังโบสถ์มูลค่านับล้านบาท โดยสามารถจองได้ในราคาตารางเมตร 100 บาท ท่านที่จะร่วมทำบุญในสร้างอุโบสถรากไม้ตะเคียน  สามารถโอนเข้ามาทีบัญชีทางวัดได้โดยตรง ธนาคารกสิกรไทย หมายเลขบัญชีธนาคาร 109-8-12982-7 สาขา ด่านช้าง ชื่อบัญชีวัดเขาถ้ำประทุน  โดยมีประชาชนในจังหวัดอุทัยธานี สุพรรณบุรี เข้าร่วมจอง 13 กัณฑ์พระคาถา โดยมีนักแสดง เป็นพระเวสสันดร มัทรี กัณหา ชาลี ชูชก ทีมงานพรภิรมย์ มาทำการแสดง โดยทุกปีทางวัดเขาถ้ำประทุน จัดเป็นประจำทุกปี ในลอยกระทง โดยท่านได้ที่จะเป็นเจ้าภาพแต่ละกันสามารถติดต่อได้กับแม่ชีแก้วเพชร เบอร์โทร 098-5415569 หรือจะเป็นเจ้าภาพมุ่งหลังคาโบสถตารางเมตรละ 100 บาท ก็สามารถติดไปได้เบอร์ดังกล่าว การเทศน์มหาชาติ คือ เทศนาเวสสันดรชาดก เป็นการเทศน์ที่นิยมจัดให้มีมาแต่โบราณ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระเวสสันดรอันเป็นพระชาติสุดท้ายของพระบรมโพธิสัตว์ ก่อนที่จะมาประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะและออกบวชจนตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีทั้งหมด 13 กัณฑ์ คือ ประกอบด้วย 1.กัณฑ์ทศพร 2.กันฑ์หิมพานต์ 3.กัณฑ์ทานกัณฑ์ 4.กันวนปเวสน์ 5.กัณฑ์ชูชก 6.กันฑ์จุลพน 7.กัณฑ์มหาพน 8.กัณฑ์กุมาร 9.กัณฑ์มัทรี 10.กัณฑ์สักกบรรพ 11.กัณฑ์มหาราช 12.กัณฑ์ฉกษัตริย์ และ 13.กัณฑ์นครกัณฑ์ และการเทศน์มหาชาติในวันนี้ มีพระรัชตพงษ์ รชตวโส วัดบ่อยายส้ม อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท พระธนัตถ์สิษฐ์ ฉนทสุโภ วัดมหาธาตุวรวิหาร  จ.เพชรบุรี เป็นองค์แสดงธรรมเทศมหาชาติ และอานิสงส์ของการฟังเทศน์มหาชาติในแต่ละกัณฑ์  ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละกัณฑ์ และความยาวในการเทศน์แต่ละกัณฑ์ก็แตกต่างกันไป ว่ากันว่าหากใครได้ฟังเทศน์มหาชาติครบทั้ง 13 กัณฑ์ และเข้าใจถ่องแท้ และให้จบเพียงวันเดียวครบบริบูรณ์ จะเป็นเหตุให้สำเร็จความปรารถนาทุกประการ

//...นายพชร พัสกุล จ.อุทัยธานี/ภาพ/ข่าว/รายงาน/สมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สื่อข่าวฯ/SIANGPRABANG NEWS ONLINE 082-5899354

ผู้ใหญ่ใจดีร่วมมอบอุปกรณ์กีฬา...!! ดูเพิ่ม

        จ. นครสวรรค์ ...!!@  มอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่นักเรียน...!!   จากการรายงานของผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 เวลา 09.30 น. ณ อาคารอเนกประสงค์โรงเรียนบ้านคำปากดาว ตำบลคำแคน อำเภอปัญจคีรี จังหวัดขอนแก่น ดร.สาวิกา สาวิสา ที่ปรึกษาคณะกรรมการกองทุนแม่ของแผ่นดิน บ้านหนองสองห้อง ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ร้อยตรีสมพล วิเศษมี ผู้คุมกฎองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ภาคพลเมือง) บก. วินัย ชำนาญปืน เจ้าของ - บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เสียงพระบาง (SIANGPRABANG NEWS ONLINE) นายบุญรักษ์  พัดเปรม ปฏิคมองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ภาคพลเมือง) ได้นำอุปกรณ์กีฬา มอบให้ กับโรงเรียนบ้านคำปากดาว เพื่อสนับสนุนในการเล่นกีฬาของเด็กนักเรียน ให้ห่างไกลจากการเล่นเกมส์ และยาเสพติด ซึ่งนางอัจฉรา หนวดสันติ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคำปากดาว มอบหมายให้ นางมลิวรรณ รูปหล่อ ครูผู้ชำนาญการพิเศษ กำนัน ชาญชัย ศรีสองชัย กำนันตำบลคำแคน และประธานกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านคำปากดาว พร้อมคณะครู ชาวบ้าน ให้การต้อนรับ สำหรับ การมอบอุปกรณ์กีฬาในครั้งนี้ สร้างความ พึงพอใจให้กับเด็กนักเรียน คณะครู ชาวบ้าน เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทางคณะได้จัดกิจกรรมต่างๆ ให้นักเรียนร่วมสนุก หลังจากนั้น ทางคณะ ได้เลี้ยงไอศครีมแก่ นักเรียนและผู้เข้าร่วมจำนวน 1 ถัง ร่วมกิจกรรมทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน และร่วมรับประทานอาหาร

//... พิราบข่าวพระบาง/ภาพ/ข่าว/รายงาน/สมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สื่อข่าวฯ/SIANGPRABANG NEWS ONLINE 082-5899356

หนุ่มใหญ่สั่งหญ้าญี่ปุ่นไม่ตรงปก เสียอารมณ์ วิ่งแจ้งความ...!! ดูเพิ่ม

         จ.อุทัยธานี...!!@   ผู้ใหญ่บ้านร้องสั่งหญ้าญี่ปุ่นไม่ตรงปกคนงานมาปลูกขาดลุ่ย ล่าสุดสองฝ่ายยอมถอยคนละก้าว ต่างคนต่างเสียเวลาต่างคืนเงิน...!!

เมื่อเวลา 11.00.น.ของวันที่ 27 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายชัยรินทร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อายุ 51ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านชายเขา ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ได้เปิดเผยว่า ตนเองได้มีการติดต่อซื้อหญ้าญี่ปุ่นจากทางเพจๆหนึ่งในเฟสบุ๊ค ซึ่งมีตัวตนและมีของส่งจริง โดยทำการตกลงซื้อขายในวันที่ 24 พ.ย.66 ที่ผ่านมา กับเจ้าของเพจซี่งเป็นคนขายรวมราคายอดทั้งหมด 14,000 บาท โดยทางตนเองนั้นได้ยื่นขอเสนอกับเจ้าของคนขาย โดยขอจ่ายเงินก่อน 10,000 บาท ที่เหลืออีก 4,000 บาท ตนเองจะขอมาจ่ายที่หน้างานให้จนจบ พร้อมกับเจ้าของคนขายนั้นได้ตกลงก่อนที่หญ้าญี่ปุ่นจะมาส่ง พร้อมกับการปูหญ้าญี่ปุ่นในครั้งนี้ ใช้เวลาการปลูกทั้งหมด 2 วัน ล่าสุดวันที่ 26 พ.ย.66 ทางคนขายได้ส่งคนงานนำหญ้าญี่ปุ่นบรรทุกรถกระบะมาปลูกให้ที่หน้าบ้านของตนเองพร้อมกับลงมือปลูกหญ้าให้ในรอบที่ 1 แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ตนเองก็จ่ายเงินสดให้กับคนงานไป 10,000 บาท ให้ในวันแรก โดยค้างเงินอีก 4,000 บาท โดยตนเองขอจะจ่ายเงินที่เหลือให้อีกวันหนึ่ง วันที่ 27 พ.ย.66 ก็คือวันนี้ เนื่องจากยังปลูกหญ้าให้ยังไม่แล้วเสร็จ พอมารุ้งเช้าของวันนี้ทางคนงานก็นำหญ้าญี่ปุ่นมาปลูกให้ใหม่ในรอบที่ 2 เพื่อให้เต็มพื้นตามที่ตกลงไว้ทั้งหมด 400 ตารางเมตร แต่เรื่องที่เจอกลับเจอหญ้าญี่ปุ่นที่คนงานนำมาปลูกพื้นนั้น ขาดลุ่ยเป็นส่วนมาก ไม่ได้คุณภาพกับที่ตนเองได้เสียเงินไป และก็ไม่เหมือนกับที่คุยไว้ก่อนการขายว่าหญ้าญี่ปุ่นสวย พร้อมกับเจ้าของคนขายก็ไม่เคยแจ้งว่าต้องมีชำรุดบ้างเป็นบางชิ้น ก็ไม่เคยบอกตนเอง ตนเองเสียความรู้สึก ตนเองคิดว่าหากเสียเงินไป 14,000 บาท แต่ต้องมาได้หญ้าญี่ปุ่นคุณภาพนี้ ก็ไม่ไหว พร้อมกับตนเองได้ออกแบบปลูกหญ้าในครั้งนี้ เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามากางเต็นท์พักผ่อนได้ ส่วนบางท่านก็มาจองล่วงหน้าไว้กับตนเองแล้ว แต่ตนเองต้องมาเสียเวลา เสียคำพูด เนื่องจากหญ้าที่ปลูกนั้นไม่สำเร็จ ทั้งนี้จึงได้สอบถามกับคนงานที่บรรทุกหญ้าญี่ปุ่นมาปลูก ชื่อนางสาวกาน อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นคนงานที่ทำงานมาหลายปีแล้ว ได้เปิดเผยตนเองและคนงานที่มา ไม่รู้เรื่องของการซื้อขายหรือตกลงกันอย่างไร และซื้อกันในราคาเท่าไร และก็ไม่ทราบเกรดของหญ้าญี่ปุ่นของแต่ละครั้ง ตนเองได้แต่เป็นคนงานมาปลูกหญ้าให้แล้วเสร็จ แต่ไม่ทราบว่าจะมีหญ้าที่มันขาดลุ่ยติดมาด้วย แต่ส่วนมากหากหญ้าที่มันขาดลุ่ย บางชิ้นหาก รดน้ำดูแลก็จะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ได้ พร้อมกับได้สอบถามกับคนงานที่มาด้วยกัน บอกครั้งนี้ ปลูกหญ้ายากมาก เนื่องจากยอมรับว่ามันขาดลุ่ยเป็นบางชิ้น เลยทำให้การปลูกได้ยากขึ้นไม่เรียบสวย พร้อมกับคนงานได้ติดต่อไปหาผู้ขายหญ้าญี่ปุ่น เพื่อติดต่อไปให้ผู้ซื้อ ว่าผู้ซื้อไม่พอใจคุณภาพของหญ้าญี่ปุ่นที่นำมาลงปลูกให้ ไม่ทราบชื่อเจ้าของคนขายเป็นผู้หญิง ได้เปิดเผยว่า หญ้ามันก็ต้องมีชำรุดบ้างอะไรบ้าง หากดูแลดีรดน้ำมันก็ฟื้นขึ้นสวย ระหว่างนั้นได้มีการถกเถียงกันกับผู้ซื้อ และเรื่องเงินที่ผู้ซื้อค้างอยู่ 4,000 บาท แต่ทางผู้ซื้อก็เปิดเผยว่ายังทำงานปลูกหญ้าให้ไม่เสร็จ ทางเราจะจ่ายเงินได้อย่างไร ล่าสุดทั้งสองฝ่าย ได้ตกลงยอมคืนเงินให้กันทั้งหมดที่ผู้ซื้อจ่ายไป 10,000 บาท และยังไม่จ่ายอีก 4,000 บาท ทางผู้ขายก็ยอมคืนเงินให้กับทางผู้ซื้อทั้งหมด 10,000 บาท และขอนำหญ้าที่ปูให้ทั้งหมดบรรทุกรถกลับ เพื่อให้ไม่มีปัญหาทั้งสองฝ่าย ต่างคนต่างยอมเสียเวลา

//...สำเนา ทองศรี/ จังหวัดอุทัยธานี ภาพข่าวรายงาน/ สมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สื่อข่าวฯ/SIANGPRABANG NEWS ONLINE 082-5899354

หนุ่มใหญ่สัญญากับแม่พระคงคา วันลอยกระทงเลิกเหล้า...!! ดูเพิ่ม

        จ.อุทัยธานี...!!@  หนุ่มใหญ่ลอยแปลก ประกาศเลิกเหล้าวันลอยกระทงไปกับน้ำ ลั่นเคยสัญญาวันเข้าพรรษาแต่ทำไม่ได้เลยขอเปลี่ยนมาเป็นวันลอยกระทงแทน เพื่อคำสัญญาจะลอยไปกับน้ำ ชาวบ้านต่างถ่ายภาพ...!!  เมื่อเวลา 20.30.น.ของวันที่ 27 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานที่วัดยาง หมู่ 2 ต.ท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ได้จัดงานวันลอยกระทงซึ่ง 1 ปี มีครั้งเดียว ชาวบ้านต่างทยอยพากันมาลอยกระทงที่วัดแห่งนี้ เนื่องจากเป็นแพให้อาหารปลา ติดกับแม่น้ำใหญ่สะแกกรัง ต่างประดับแสงสีไฟสุดอร่ามตา โดยกระทงทั้งหมดนั้นเป็นของวัด ทางวัดได้ออกแบบทำกระทงโดยใช้วัสดุเป็นข้าวโพดกรอบแฟนซี ซึ่งเป็นอาหารปลาอยู่แล้ว ไว้สำหรับให้อาหารปลาสวาย ปลาเทโพ และปลาอีกหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำแห่งนี้ ให้เกิดประโยชน์ทำบุญให้กับสัตว์ในน้ำด้วย โดยไม่เกิดมลพิษทางธรรมชาติในแม่น้ำ เนื่องจากประชาชนที่มาลอยกระทงที่วัดแห่งนี้ ก็ได้ทั้งลอยกระทงบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับเจ้าแม่คงคา อีกทั้งยังเป็นอาหารปลาในแม่น้ำอีกด้วย ส่วนบรรยากาศช่วงใกล้ดึก ได้มีหนุ่มใหญ่รายหนึ่งชื่อ คุณพี่มนัส อายุ 57 ปี ได้ถือกระทงแปลกกว่าคนอื่น โดยมีป้ายตัวหนังสือตัวใหญ่ เสียบกับกระทง จับใจความว่า สัญญานี้ เลิกเหล้า วันลอยกระทง ไปกับน้ำ โดยสร้างสีสันภายในงาน ชาวบ้านต่างพากันดูพร้อมกับถ่ายภาพ จึงได้สอบถามพี่มนัส ได้เปิดเผยว่า วันลอยกระทงปีนี้ ขอลอยแปลกกว่าคนอื่นหน่อย เนื่องจากเคยบอกเลิกเหล้าวันเข้าพรรษาแล้ว แต่ทำไม่ได้ จึงขอเปลี่ยนมาเป็นวันลอยกระทงบ้าง เพื่อคำสัญญาที่ว่าไว้จะลอยไปกับน้ำ โดยไม่หวนคืนกลับมา ทั้งนี้พี่มนัส ได้นำกระทงมาเพิ่มอีก 1 กระทง รวมเป็น 2 กระทง ลอยเพื่อคนรักในวันข้างหน้า เนื่องจากพี่มนัสยังไม่มีคู่มาลอย ในวันนี้พี่มนตัวเลยจัดชุดใหญ่และแปลกกว่าคนอื่นดังกล่าว

//...สำเนา ทองศรี/จ.อุทัยธานี/ภาพ/ข่าว/รายงาน/สมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สื่อข่าวฯ/SIANGPRABANG NEWS ONLINE 082-5899354 

นักศึกษาพยาบาลวอน รมว.การคลัง อนุมัติ เงินกู้ยืม เรียน...!! ดูเพิ่ม

         จ.ศรีสะเกษ...!!@ นักศึกษาพยาบาลร่ำไห้กองทุนกู้ยืมเรียนยังไม่อนุมัติให้กู้เงินได้เดือดร้อนหนักมาก อาจจะต้องหยุดเรียนพยาบาลเนื่องจากไม่มีเงินค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ วอนนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการคลังช่วยเหลือด่วนด้วย เตรียมเรี่ยไรเงินเพื่อนนักศึกษาเพื่อเป็นค่าเดินทางไปยื่นหนังสือร้องทุกข์กับ รมว.กระทรวงการคลังในวันที่ 29 พ.ย.66...!!  เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ  ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ  ได้มีตัวแทนของนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา จำนวน 20  คนนำโดย  น.ส.ปัทมวรรณ พันธ์อุ่น อายุ 19 ปี 112 ม.7 ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ น.ส.สุดารัตน์ ทัพธานี อายุ 19 ปี บ้านหนองบัว 90 ม.4 ต.หนองกุง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม น.ส.สุนิตา ตอรอโป นักศึกษาคณะพยาบาลจาก                  จ.ปัตตานี  น.ส.นูรียา มามะกูตง จาก จ.นราธิวาส  น.ส.นูรยันนะฮ์  ยูโซ๊ะ จาก จ.นราธิวาส  และนายอาหามะ ซาร์ จาก จ.ยะลาเบตง 

ซึ่งทุกคนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษ ได้เข้ามายื่นหนังสือร้องทุกข์กับนายบุญชวัฒน์ ปัญช์ณ์ญาแดง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ  เนื่องจากว่า นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 จำนวน 42 คน ที่ได้ยื่นเรื่องขอกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ไปนานหลายเดือนแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้รับการอนุมัติจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แต่อย่างใด  ทำให้นักศึกษาทุกคนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมาก  เพราะว่า ไม่มีเงินค่าใช้จ่ายในการครองชีพและค่าใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียน รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกี่ยวกับการเรียนคณะพยาบาลศาสตร์  จึงได้มาร้องทุกข์เพื่อขอให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ พิจารณาให้การช่วยเหลือโดยด่วนด้วย  ซึ่ง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำคณะนักศึกษาทุกคนเข้าไปในห้องประชุมศูนย์ดำรงจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเขียนเรื่องร้องทุกข์ตามระเบียบ และสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อจะได้รายงานให้ นายอนุพงศ์  สุขสมนิตย์  ผวจ.            ศรีสะเกษ ทราบ เพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุดต่อไป น.ส.สุดารัตน์ ทัพธานี อายุ 19 ปี  นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษ กล่าวด้วยน้ำตาไหลอาบแก้มว่า ครอบครัวของตนมีฐานะยากจนมากตนจึงได้ตั้งใจเรียนหนังสือเพื่อที่จะได้ทำให้คุณพ่อและคุณแม่ภูมิใจ  คุณพ่อของตนทำงานคนเดียวหาเลี้ยงครอบครัวทำให้มีเงินมาใช้จ่ายในการเรียนหนังสือไม่ทัน ตนก็มีความหวังอยู่ที่กองทุนเงินกู้ยืมเรียน แต่ว่ากองทุนก็ยังไม่พิจารณาอนุมัติให้ซึ่งเวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้วตนไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียนรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการครองชีพประจำวัน ซึ่งพ่อของตนต้องทำงานหนักกว่าเดิมเพื่อมาส่งเสียให้ตนเรียนหนังสือ ทำให้ตนมีค่าใช้จ่ายในแต่ละวันไม่พอใช้เพราะว่าเงินหายากมาก น.ส.สุดารัตน์ ทัพธานี อายุ 19 ปี   กล่าวด้วยน้ำตาไหลอาบแก้มต่อไปว่า ตนจึงขอกราบวิงวอนถึงท่านนายกรัฐมนตรี  ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ท่านปลัดกระทรวงการคลัง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษและผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ขอให้ได้โปรดช่วยเหลือพวกตนด้วย เพราะว่าค่าใช้จ่ายประจำวันมีไม่เพียงพอ บางวันก็ต้องอดมื้อกินมื้อ ขอฝากถึงท่านผู้มีอำนาจและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยพิจารณาช่วยเหลือพวกตนด้วย ซึ่งพวกตนเพิ่งยื่นกู้เป็นครั้งแรกไม่ติดปัญหาอะไรทั้งสิ้นแต่ทำไมพวกตนต้องรอการอนุมัตินานมาก  พอสอบถามไปก็บอกว่าให้รออย่างเดียวพวกตนจะต้องรอไปถึงไหน รอให้พวกตนอดตายและต้องหยุดเรียนไปก่อนหรือ จึงจะอนุมัติเงินให้พวกตน พวกตนจะอดตายกันอยู่แล้ว ซึ่งหากว่าไม่ได้รับอนุมัติจากเงินกองทุนกู้ยืมเรียนพวกตนคงจะไม่ได้เรียนต่ออีกต่อไป ซึ่งตนได้พูดคุยกับทางผู้ปกครองแล้ว ทางผู้ปกครองก็บอกว่าถ้าไม่ได้รับการอนุมัติเงินก็อาจจะไม่ได้เรียนต่อเพราะว่าไม่มีค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน เนื่องจากว่าไม่พ่อแม่ไม่มีทุนทรัพย์ที่จะส่งเสียให้เรียนหนังสือคณะพยาบาลศาสตร์นั่นเอง

น.ส.สุนิตา ตอรอโป นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษ  จาก                จ.ปัตตานี  กล่าวว่า   พวกตนมีความฝันอยากที่จะเป็นพยาบาล แต่ว่าตนสอบที่อื่นไม่ได้ก็เลยมาสอบที่นี่เพราะว่าที่นี่เปิดโอกาสและยื่นโอกาสให้กับพวกตนที่เป็นชาวใต้ พวกตนจึงได้พากันมาเรียนที่นี่พวกตนจึงหวังในส่วนของกองทุนเพราะว่า จากบ้านของตนมาเรียนที่นี่ระยะทางกว่า 1,000 กม.มาจากปัตตานี นราธิวาสและยะลาซึ่งระยะทางไกลมาก ก็หวังว่าที่จะได้เงินทุนในส่วนของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)  แต่ว่ายังไม่อนุมัติให้กับพวกตนเลยสักที ซึ่งตนเป็นผู้กู้รายใหม่ที่พึ่งยื่นกู้พวกตนไม่ได้ทำผิดอะไรเลยเกี่ยวกับ  กยศ.ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกตนจึงไม่ได้เงินในส่วนที่พวกตนมีสิทธิ์ควรได้  ตนขอฝากถึงผู้มีอำนาจทุกท่าน ท่านผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เอง ขอให้ช่วยเหลือพวกตนด้วย ทุกเดือนที่เพื่อนของตนพากันกลับไปเยี่ยมบ้านแต่ว่าพวกตนยังรอเงิน กยศ. เพื่อที่จะนำเอาเงินนั้นมาจ่ายเป็นค่ารถไฟเพื่อกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้าน ถ้ายังไม่ได้เงินนี้พวกตนก็น่าที่จะต้องหยุดเรียนไม่ได้ไปต่อในหลักสูตรของคณะพยาบาล เพราะว่าค่าเล่าเรียนไม่ใช่ถูก ๆ และอีกอย่างก็คือเมื่อตนมีโอกาสมาเรียนแล้ว เหมือนกับว่าถ้าไม่ได้เงินกองทุน กยศ. ก็จะเป็นการตัดโอกาสของพวกหนูทั้ง 4 คนไปเลย พวกตนก็อาจจะไม่ได้เรียนต่อคณะพยาบาลศาสตร์อีกต่อไปแล้ว ซึ่งพวกตนได้ทำการเรี่ยไรเงินจากเพื่อนนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ทุกคนเพื่อนำเอามาเป็นใช้จ่ายในการค่าเดินทางเพื่อไปยื่นหนังสือร้องทุกข์กับ รมว.กระทรวงการคลัง ในวันที่ 29 พ.ย.66 เวลา 09.00 น. ที่กระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ นายบุญชวัฒน์ ปัญช์ณ์ญาแดง  ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า  เรื่องจากตนจะได้รายงานให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษทราบ และจะได้ทำหนังสือส่งไปถึงผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อขอให้พิจารณาเร่งรัดในการแก้ไขปัญหานี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษโดยด่วนที่สุดต่อไป

//...ศิริเกษ  หมายสุข/ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ/ภาพ/ข่าว/รายงาน/สมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สืข่าวฯ/SIANGPRABANGNEWS ONLINE 082-5899354