จ.นครสวรรค์...!!@ ผู้การลั่นฟันเด็ดขาดสารวัตรปอท.อนาจารหลานสาว...!!
จากกรณีมีการเปิดโปงเรื่องราวอันฉาวโฉ่ของตำรวจระดับสารวัตร คือ สารวัตรเหน่ง เป็นสารวัตร กก.3 บก.ปอท. ถูก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาว ต.ท่าไม้ อ.ชุมแสง แจ้งความจับฐานกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดใด โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ฯ และพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กลอุบายหลอกลวงหรือขู่เข็ญ โดยไปก่อเหตุออกอุบายล่อลวง น.ส.เอ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานสาวของภรรยา ไปกระทำอนาจาร ถึงขั้นขู่บังคับให้พาขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าโรงแรมหวังเคลมสวาท แต่ปรากฏว่า ในระหว่างที่เปิดห้อง หลานสาวของภรรยาได้ไหวตัวทัน ชิงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกมาได้ ก่อนจะรีบไปบอกญาติให้พาเข้าแจ้งความกับตำรวจในการเอาผิด สารวัตร ปอท.รายนี้ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 เวลา 09.30 น. พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ ได้เดินทางมาที่โรงพัก สภ.ชุมแสง อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดในส่วนของคดี โดยมี พ.ต.อ.นิวัติ พิพัฒนสิริ ผกก.สภ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ และทีมพนักงานสอบสวน เข้าห้องประชุมรายงานผลการทำคดีดังกล่าว ก่อนที่ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ จะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การมาติดตามคดีของ สารวัตรเหน่งในวันนี้ ต้องแยกออกเป็น 2 คดี คือ คดีใช้อาวุธปืนยิงในที่สาธารณะ และครอบครองอาวุธปืนผิดมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา สารวัตรเหน่งได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าในบริเวณบ้าน ในช่วงค่ำคืน และพกพาอาวุธปืนผิดมือ ซึ่งคดีดังกล่าวได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นหมดแล้ว และเตรียมจะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ โดยจะมีการนัดสารวัตรเหน่ง ที่กำลังถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อส่งตัวให้กับพนักงานอัยการอีกครั้งหนึ่ง ส่วนอีกคดี คือสารวัตรเหน่งถูกแจ้งความไปกระทำอนาจารหลานสาวของภรรยานั้น เท่าที่มีการสอบปากคำสารวัตรเหน่ง และผู้เสียหาย รวมถึงพยานแวดล้อมต่างๆ ทำให้มีเหตุผลเพียงพอที่เชื่อได้ว่าสารวัตรเหน่งมีการกระทำความผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งเรื่องนี้ ทาง ผบ.ตร.ได้กำชับสั่งให้ตำรวจพื้นที่ดำเนินการขั้นเด็ดขาด หากมีเนื้อร้ายเกิดขึ้นในองค์กรก็ต้องตัดทิ้ง และขณะนี้ การสอบสวนคดีมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในคดีอนาจาร สารวัตรเหน่งให้การปฏิเสธหรือไม่ พ.ต.อ.นิวัติ พิพัฒนสิริ ผกก.สภ.ชุมแสง ได้ตอบแทนว่า สารวัตรเหน่งได้ให้การปฏิเสธ พร้อมกับอ้างว่า ในวันที่เกิดเหตุ สารวัตรเหน่งได้ไหว้วานให้หลานสาวพาขับขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่โรงแรมเพียงเท่านั้น ไม่ได้มีเรื่องบังคับขู่เข็ญ และลวนลามเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนในเรื่องของคดียิงปืนและพกพาอาวุธปืนผิดมือ ที่ทำให้คดีมีความล่าช้านั้น ยอมรับว่า ช่วงที่เกิดเหตุ เป็นช่วงที่มีโควิดระบาดหนักในพื้นที่ของ อ.ชุมแสง จึงทำให้การสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์แต่ละคน ต้องใช้เวลานัดหมายในการสอบปากคำ แต่ตอนนี้กระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และเตรียมจะส่งฟ้องอัยการ คาดว่าไม่เกินสัปดาห์นี้อย่างแน่นอน เวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่เคียงน่านรีสอร์ท ซึ่งเป็นสถานที่ที่ น.ส.นันพัฒน์ ผู้เสียหาย ระบุว่าถูกสารวัตรเหน่งขู่เข็ญให้พาไปเปิดห้องพักรีสอร์ท โดยผู้สื่อข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ เป็นภาพของ น.ส.เอ พาสารวัตรเหน่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณป้อมติดต่อพนักงานบริเวณด้านหน้ารีสอร์ท จากนั้น เมื่อสารวัตรเหน่งเดินลงมาจากรถ เพื่อติดต่อพนักงานในการขอเปิดห้องทาง น.ส.เอ ก็ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปทันที โดยไม่มีทีท่าว่าเป็นการขี่หลบหนีและทางสารวัตรเหน่งเอง ก็ไม่ได้สนใจอะไร ยังคงพูดคุยอยู่กับพนักงานของทางรีสอร์ทตามปกติ จากการสอบถามพนักงานของรีสอร์ทที่คอยให้บริการในวันนั้น ได้รับการเปิดเผยว่า สารวัตรเหน่งที่กำลังตกเป็นข่าวฉาว เพิ่งจะเคยพบเห็นวันนั้นเป็นครั้งแรก ส่วนฝ่ายผู้หญิง เคยพบเห็นบ่อย เขามีลักษณะเป็นทอมบอย และมีแฟนเป็นผู้หญิง ส่วนในวันนั้น วันที่ฝ่ายหญิงพาสารวัตรเหน่งซ้อนท้ายมาเปิดห้องพัก สารวัตรเหน่งขอเปิดห้องพักแบบค้างคืนในราคา 350 บาท ซึ่งก็ได้ยินสารวัตรเหน่งพูดกับผู้เสียหายว่า ให้รอก่อน แต่ทางฝ่ายหญิงเหมือนมีสีหน้าที่ไม่ค่อยสบอารมณ์อะไรบางอย่าง ดูเหมือนเขาจะอารมณ์เสียด้วย แล้วก็ขับขี่รถออกไปจากหน้ารีสอร์ททันที โดยไม่มีท่าทางลุกลี้ลุกลนเหมือนคนหลบหนีแต่อย่างใด ส่วนสารวัตรเหน่ง ก็เดินไปที่ห้องพักเบอร์ 6 และเข้าพักผ่อนตามปกติ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของสารวัตรเหน่ง ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ท่าไม้ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ พบว่า เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ตั้งอยู่ในอาณาเขตรั้วเดียวกันกับบ้านพักของ น.ส.เอ ผู้เสียหาย ที่อยู่ถัดไปทางด้านหลังห่างกันไปประมาณ 100 เมตร พบว่า บ้านพักของสารวัตรเหน่งไม่มีใครอยู่ในบ้าน ซึ่งเป็นผลมาจากการถูกคำสั่งเรียกตัว และถูกตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ที่ต้องไปประจำการตามตำแหน่งสังกัดในพื้นที่ กทม. ส่วน น.ส.เอ ก็พบว่า ขณะนี้ไม่ได้อยู่บ้านเช่นเดียวกัน โดยทราบว่า ตามกำหนดการที่จะต้องเดินทางเข้าพบกับพนักงานอัยการเพื่อร่วมสอบปากคำกับสหวิชาชีพในเช้าวันนี้ ได้ถูกเลื่อนไป จึงทำให้ น.ส.เอ ขับขี่รถจักรยานยนต์เดินทางไปหาแฟนสาวในพื้นที่ อ.เก้าเลี้ยว ที่อยู่ใกล้กัน ด้านนางโธรี่ อ่อนละออ อายุ 52 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.ท่าไม้ และมีศักดิ์เป็นป้าของ น.ส. ซึ่งเป็นเครือญาติของภรรยาสารวัตรเหน่งด้วย เปิดเผยว่า น.ส.เอ พักอาศัยอยู่ที่บ้านของตน ร่วมกับสามี และมารดาของตนที่มีศักดิ์เป็นยายของน.ส.เอ ส่วนหลานสาว ตอนนี้เขาเรียน กศน.ในระดับชั้นมัธยมตอนต้น และเขามีลักษณะเป็นสาวทอมบอย ชอบเที่ยวเตล็ดเตร่ทั่วไปตามภาษาวัยรุ่น ซึ่งในส่วนของสารวัตรเหน่ง และภรรยาที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงนั้น เขาก็ถือว่าเป็นคนอัธยาศัยดี เพราะสารวัตรเหน่งและภรรยาก็เคยจ้างให้ น.ส.เอ ไปทำงานบ้านอยู่บ่อยครั้ง และตนก็ไม่เคยเห็นว่า สารวัตรเหน่งและ น.ส.เอ จะเคยทะเลาะหรือผิดใจอะไรกัน แต่ในส่วนของสารวัตรเหน่ง เวลาเขาว่างงานมาอยู่ที่บ้าน เขาจะเป็นคนที่อารมณ์ดี ชอบปลูกต้นไม้ ทำอาหาร แต่พอเวลาเหล้าเข้าปากเมื่อไหร่ สารวัตรเหน่งจะเปลี่ยนเป็นคนละคน ชนิดที่ว่า เวลาดื่มเหล้าขาวเมื่อไหร่ เขาจะหลุดฟิวส์ไปเลย ซึ่งเดือนหนึ่ง จะพบว่าเขาจะกินเหล้าเพียงอาทิตย์ละครั้ง แต่ทุกครั้ง ก็จะโหดร้ายหาเรื่องไปทะเลาะกับภรรยา เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก็จะชอบเอาอาวุธปืนออกมายิงขึ้นฟ้าหน้าบ้านเพื่อเป็นการระบายอารมณ์แทบจะทุกครั้ง เมื่อสอบถามถึง สารวัตรเหน่งถูก น.ส.น.เอ แจ้งจับกระทำอานาจาร นางโธรี่ ระบุว่า น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์เหล้า จึงทำให้สารวัตรเหน่งหลุดอารมณ์ไปลวนลามหลานสาว จนมีการแจ้งความกันเกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่ทราบว่าวันนั้น สารวัตรเหน่งไปเมาเหล้าขาวหรือยาดองมา จนทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้//...พิราบข่าวพระบาง03/ภาพ/ข่าว/รายงาน 081-0456921 (SIANGPRABANG NEWS ONLIEN 099-49207)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น