จ.ศรีสะเกษ...!!@ ประธานเครือข่าย ร.ร.ขนาดเล็กขอบคุณ รมว.ศึกษาธิการ...!! เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ร.ร.บ้านพะเยียวตาสุ (อส.พป.37) ต.ใจดี อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นายศราวุธ วามะกัน ผอ.ร.ร.บ้านพะเยียวตาสุ (อส.พป.37) และประธานเครือข่าย ร.ร.ขนาดเล็กแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ และประธานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จากการประกาศใช้เกณฑ์อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เกณฑ์ใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)
ซึ่งการใช้สูตรคำนวณชั่วโมงสอนของครูใหม่ ได้ส่งผลดีต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ทั่วถึงเท่าเทียม เป็นการประกันสิทธิโอกาสและความเสมอภาคอย่างแท้จริง โดยเฉพาะ ร.ร.ขนาดเล็กที่กระจายอยู่ทุกภูมิภาค ราว ๆ กว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศไทย ที่มีนักเรียน 119 คนลงมา มีความถูกต้องเหมาะสมกับยุคสมัยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ในหลายระลอกที่ผ่านมา ร.ร.ขนาดเล็กโดยส่วนใหญ่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติและสามารถปรับเปลี่ยนไปจัดการเรียนการสอนในรูปแบบอื่น ๆ ได้ เมื่อตรวจพบว่ามีบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงเข้ามาในพื้นที่ เด็กไม่ต้องเรียนออนไลน์อย่างเดียว จนเกิดความเครียด ดังนั้น เกณฑ์อัตรากำลังตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ที่ ศธ.0206.6 / ว 23 ลงวันที่ 23 ธ.ค. 2563 ถือว่าเป็นการปฏิรูปการศึกษาที่เข้าใจเข้าถึงสภาพบริบทและโครงสร้างของสังคมไทยที่เปลี่ยนแปลงไป “โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร.ร.ประถมศึกษา ที่มีจำนวนนักเรียน 119 คนลงมา เป็นเกณฑ์ที่ตอบโจทย์การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของ ร.ร.ขนาดเล็ก ที่ลูกหลานนักเรียนโดยส่วนใหญ่เป็นของประชาชนคนรากหญ้าที่หาเช้ากินค่ำยังคงให้ความไว้วางใจส่งบุตรหลานเข้ามาเล่าเรียน เพื่อให้ตนเองได้มีเวลาในการประกอบอาชีพหารายได้มาจุนเจือครอบครัว โดยไม่ต้องเป็นห่วงและกังวลมากนัก เพราะยังมีครูคอยสอนและช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด” นายศราวุธ วามะกัน ผอ.ร.ร.บ้านพะเยียวตาสุ (อส.พป.37) เปิดเผยต่อไปว่า ดังนั้น ทางเครือข่าย ร.ร.ขนาดเล็ก ขอให้กำลังใจ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ และประธานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้ผลักดันและเร่งใช้เกณฑ์อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้บังเกิดผลอันจะเป็นการปฏิรูปการศึกษาอย่างแท้จริง เพื่อเป็นการประกันสิทธิและโอกาสในการได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพเท่าเทียม ไม่จำเป็นต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนเข้าไปเรียนใน ร.ร.ใหญ่ที่มีความหนาแน่นของประชากร มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุอุบัติภัยต่าง ๆ และเมื่อเจอโรคระบาดอุบัติใหม่ ก็จะได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวางเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้//
...ศิริเกษ หมายสุข/ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ/ภาพ/ข่าว/รายงาน (SIANGPRABANG NEWS ONLIEN 099-4920749)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น