จังหวัดสุพรรณบุรี...!!@ อ.ส.ม.ช.(ภาคพลเมือง) ลงพื้นที่ตามคำร้องขอของประชาชนติดตามความคืบหน้าเรื่องการร้องเรียน...!!
จากการรายงานของผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 เวลา 11.30 น. นายจิระภาค ยุพาพินนุรักษ์ ประธานองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ภาคพลเมือง) หรือ อ.ส.ม.ช. พร้อมคณะ ลงพื้นที่ ณ ที่ทำการกำนัน หมู่ 3 ตำบลยางนอน อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ตามที่ นายบัญญัติ ปานเพชร กำนันตำบลยางนอน อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะตัวแทนของราษฎร ได้เข้าร้องเรียนกับองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนฯ ว่า ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการปฏิบัติงานของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลยางนอนฯ และการปลอมแปลงเอกสารโดยนำลายมือชื่อราษฎร หมู่ที่ 3 ที่ลงลายมือชื่อประกอบโครงการทำลานตากข้าว หมู่ 3 ไปจัดทำเป็นรายการประชุมประชาคมระดับหมู่บ้านร่วมกับประชาคมท้องถิ่น เพื่อขอย้ายสถานที่ดำเนินการประกอบการโอนจัดสรรงบประมาณประจำปี 2556 โครงการก่อสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก สายใต้โรงสีไฟยางนอน - บ้านห้วยปลาช่อน หมู่ที่ 3 งบประมาณ 1,99 8,000 บาท บ้านยางนอน หมู่ที่ 2 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2556 และอำเภอเดิมบางนางบวชได้รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีความเห็นว่ากรณีนี้ไม่สามารถหาผู้กระทำการปลอมแปลงเอกสารการขจัดทำประชาคมในการขนย้ายสถานที่ดำเนินโครงการ ได้เห็นควรยุติเรื่องนั้น จังหวัดสุพรรณบุรีได้พิจารณาจากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของอำเภอเดิมบางนางบวชแล้วผลการตรวจสอบรับฟังได้ว่าไม่มีการประชุมประชาคมหมู่บ้านจริง สำหรับกรณีร้องเรียนว่า นายมานุษย์ กลิ่นน้ำหอม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลยางนอนและนางภัณฑิลา ปานเพ็ชร ปลอมแปลงเอกสารโดยนำรายชื่อราษฎร หมู่ที่ 3 ที่ลงลายมือชื่อประกอบโครงการทำลานตากข้าว หมู่ที่ 3 ไปจัดทำรายการประชุมประชาคมระดับหมู่บ้าน จากการสอบสวนยังไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำผิดในขั้นสอบสวนมีความเห็นให้งดการสอบสวนและส่งสำเนาการสอบสวนให้พนักงานอัยการ พิจารณาผลการพิจารณาสำนักงานอัยการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีหนังสือแจ้งสถานีตำรวจภูธรทุ่งคลี ว่า ผลการพิจารณาแล้วเห็นควรงดการสอบสวนและส่งสำเนาการสอบสวนคืนพนักงานสอบสวน หากต่อมารู้ตัวผู้กระทำผิดให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนต่อไป เหตุดังกล่าวผ่านมากว่า 8 ปีแล้ว ไม่มีผลคืบหน้าทางคดีจึงเป็นที่มาของการเข้าร้องเรียนต่อ องค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ภาคพลเมือง) ซึ่งองค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนฯ ได้ทำหนังสือขอคำชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 5 หน่วยงานประกอบด้วยสำนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7, สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน, สำนักงานอัยการสูงสุด, กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย, ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี, สำนักงานการเลือกตั้งจังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับคำชี้แจงตอบรับแล้ว 3 หน่วยงานยังคงเหลืออีก 2 หน่วยงานที่ยังไม่ได้ตอบรับ ซึ่งชาวบ้านยังข้องใจเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆทางกฎหมายเพราะพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้องไปตั้งแต่ปี 2562 ทางทีมงานองค์การฯได้อธิบายทำความเข้าใจกับชาวบ้านในบางประเด็นแล้ว และจะติดตามความคืบหน้าเพื่อหาข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวต่อไป//...พิราบข่าวพระบาง/ ศูนย์ข่าวสมาคมส่งเสริมวิชาชีพผู้สื่อข่าว เพื่อพิทักษ์สิทธิมนุษยชน/ภาพ/ข่าว/รายงาน (SIANGPRABANG NEWS ONLINE 099-4920749)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น