SIANGPRABANG NEWS ONLINE: ผบก.ปปป. ลงพื้นที่ตรวจสอบการเงินวัดห้วยด้วน...!!

จ.นครสวรรค์...!!@ ผู้การ ปปป. ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดห้วยด้วน...!! จากการรายงานของผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบเส้นทางการเงิน ของวัดธารทหาร (ห้วยด้วน) อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ หลังมีการร้องเรียน ความไม่ชอบมาพากล ทางการเงินของวัด โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อม พ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธาภิรมณ์ ผกก. 1 บก.ปปป. พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบ และจะเร่ง ขยายผลให้เร็วที่สุดเพื่อสร้างความโปร่งใสให้กับหลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม เจ้าอาวาสวัดห้วยด้วนจากกรณีกลุ่มลูกศิษย์หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม หรือพระราชมงคลวัชราจารย์ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เจ้าอาวาสวัดธารทหาร (ห้วยด้วน) ตำบลธารทหาร อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์

ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 3 ได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนถอดถอนผู้ดูแลหลวงพ่อพัฒน์ ต่อกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ราชเลขาธิการสํานักพระราชวัง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครสวรรค์ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เนื่องจากมีคนบางกลุ่มซึ่งเป็นคณะกรรมการฝ่ายฆราวาสได้แสดงพฤติกรรมอันเป็นที่ไม่น่าไว้วางใจโดยการนิมนต์หลวงพ่อพัฒน์ ออกจากวัดไปประกอบศาสนกิจบ่อยครั้ง และบางครั้งเดินทางไปไกลจนเป็นเหตุท่านหมดสติขณะออกกิจนิมนต์ต้องเข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลสินแพทย์ จังหวัดกาญจนบุรี จนเกิดความไม่พอใจให้กับสานุศิษย์

อีกทั้งยังเป็นประเด็นในสังคมและผู้ที่มีความเคารพศรัทธาในหลวงพ่อพัฒน์ ได้ทวงถามถึงการบริหารจัดการกิจนิมนต์ และการดูแลสุขภาพของหลวงพ่อเพราะด้วยสภาพสังขาร ของท่านซึ่งมีอายุ 100 ปี พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 รายการเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของทรัพย์สินดังกล่าวลำดับที่

1. นายสว่าง (นามสมมติ) อายุ 65 ปี ประธานฝ่ายฆราวาส หรือไวยาวัจกร และเป็นหลานของหลวงพ่อ เป็นเงินจำนวนกว่า 50 ล้านบาท เนื่องจากเจ้าตัวไม่สามารถชี้แจงเส้นทางการเงินได้

2. นางวาด (นามสมมติ) อายุ 58 ปี คณะกรรมการ เป็นเงินจำนวนกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นหลานห่างๆ ของหลวงพ่อ

3. นางสาวสมใจ (นามสมมติ) อายุ 32 ปี คณะกรรมการวัด ลูกสาวของนางวาด เป็นเงินจำนวนกว่า 2 ล้านบาท ล่าสุด วันนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. พร้อม พ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธาภิรมย์ ผกก. 1 บก.ปปป. ได้เดินทางลงพื้นที่ วัดห้วยด้วนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พร้อมพูดคุยกับคณะกรรมการและหลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม พบว่ามีวงเงินที่ต้องตรวจสอบถึง 60 ล้านบาท จากการพูดคุยยังคงต้องมีการสอบสวนบุคคลเพิ่มเพื่อเร่งขยายผลและหาข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุดเพื่อตอบข้อสงสัยให้กับบรรดา ลูกศิษย์และประชาชนที่รอผลข้อเท็จจริง คาดว่าเร็วๆนี้ คงได้ข้อสรุปที่แน่ชัด//